Description

พริกป่น ซอง 1 กรัม แพ็ค 200 ซอง

ส่วนประกอบ : พริกป่น 100 %

วิธีใช้ : ใช้เพิ่มรสชาติอาหารให้มีความเผ็ดร้อน ซอง 1 กรัม ง่ายต่อการพกพา และการใช้

วิธีการเก็บรักษา : ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทให้พ้นแสงแดดและความร้อน

เลขที่ อย. 22-2-00757-6-0004

บริษัท ผึ้งหลวง สไปซ์ จำกัด มุ่งมั่นผลิตสินค้าคุณภาพ โดยการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยได้รับมาตราฐาน GHPs, HACCP, ISO22000:2005 และ อย.

พริกป่น กินเผ็ดเพื่อสุขภาพ พิชิตโรคร้ายและความอ้วน

พริกป่นเครื่องเทศคู่ครัวและเครื่องปรุงเคียงโต๊ะอาหารของคนไทย ซึ่งแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะนำมาปรุงอาหารหรือเพิ่มรสชาติให้กับเมนูจานโปรดอย่างเช่นก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า หรือแม้แต่อาหารตามสั่งที่ต้องการรสเผ็ดจัดจ้านยิ่งขึ้น แต่ด้วยความเผ็ดนี้เองที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างคาดไม่ถึง

พริกป่นที่ดีเป็นอย่างไร

พริกป่นคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผลพริก ซึ่งนำผลพริกแก่จัดหรือสุกที่อาจจะมีก้านผลติดอยู่ด้วย นำไปผึ่งแดดหรืออบให้แห้งแล้วคั่ว จากนั้นจึงนำไปบดให้เป็นผง โดยพริกป่นที่ดีควรมีลักษณะเป็นผงแห้งสนิท อาจจะมีเมล็ดปนอยู่ด้วยหรือไม่ก็ได้ มีสีและกลิ่นที่ดีตามธรรมชาติ ต้องไม่มีกลิ่นเหม็นหืนหรือกลิ่นอับ และต้องไม่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนอย่างเช่นดิน ทราย หรือกรวด เป็นต้น

นอกจากนี้พริกป่นที่ดีต้องบรรจุอยู่ในภาชนะที่แห้งสะอาดและปิดผนึกสนิท สามารถป้องกันสิ่งสกปรกหรือการปนเปื้อนจากสิ่งอื่นๆ ภายนอกได้ดีด้วยเช่นกัน อีกทั้งควรมีการระบุรายละเอียดของผู้ผลิตไว้อย่างชัดเจน

ทำไมพริกป่นจึงมีรสเผ็ด

เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่าเปลือกและเมล็ดของพริกคือส่วนที่มีความเผ็ดมากที่สุด แต่จริงๆ แล้วความเผ็ดนั้นมาจากสารที่เรียกว่า “แคปไซซิน” ซึ่งพบมากในบริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว โดยสารชนิดนี้มีความทนทานต่ออุณหภูมิร้อนหรือเย็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะนำมาปรุงสุกหรือผลิตเป็นพริกป่นแล้วก็ตาม

สรรพคุณของพริกป่น

ในพริกป่นนั้นอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด รวมทั้งสารให้ความเผ็ด “แคปไซซิน” ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพจนหลายๆ คนอาจต้องเปลี่ยนใจหันมารับประทานรสเผ็ดกันทันที

1. กำจัดเซลล์มะเร็ง พริกป่นมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารแคปไซซินจำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งผิวหนังและโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมทั้งโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย แต่ไม่ทำลายเซลล์ดีๆ ในร่างกาย
2. แก้ปวด สารแคปไซซินจะเข้าไปช่วยลดสารเคมีในเซลล์ประสาท (substance P) ที่นำสัญญาณความรู้สึกเจ็บปวดจากปลายประสาทไปยังสมอง ดังนั้นจึงมักจะใช้เป็นส่วนประกอบในยาแก้ปวดต่างๆ ทั้งชนิดครีมทาผิวหนัง น้ำมันนวด และแผ่นแปะบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกด้วย
3. บรรเทาอาการภูมิแพ้ รสเผ็ดของพริกป่นจะช่วยขับเสมหะและขยายหลอดลม เพียงแค่โรยพริกป่นลงในซุปร้อนๆ ในปริมาณเท่าที่จะทนความเผ็ดไหว ก็จะช่วยหดหลอดเลือดในจมูกและคอ ซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก
4. กระตุ้นการเผาผลาญและไหลเวียนโลหิต สารแคปไซซินสามารถช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขับเหงื่อ พร้อมกับช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานดี เป็นการป้องกันไม่ให้ไขมันและเมือกเสียๆ จับตัวภายในร่างกายอีกทางหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาโรคอ้วนอย่างยิ่ง

งานวิจัยเกี่ยวกับสารแคปไซซินในพริกป่น

• ผลงานวิจัยในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่ควบคุมอาหาร แต่มีส่วนประกอบของพริกอยู่ด้วย จะมีความต้องการอินซูลินน้อยลง โดยได้รับการยืนยันจากงานวิจัยของคนไทยเมื่อปี 2009 ที่รับประทานพริกป่นไม่ต่ำกว่า 1 ช้อนชา ถึงจะสามารถลดกลูโคสอย่างได้ผล
• ศูนย์การแพทย์เซดาร์ส – ไซไน (Cedars-Sinai Medical Center) ในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่าสารแคปไซซินช่วยลดก้อนเนื้องอกในหนูทดลองที่มีเนื้องอกได้ร้อยละ 50 และยับยั้งการเติบโตพัฒนาเป็นเนื้อร้ายได้ถึงร้อยละ 80
• นักวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์พบว่าสารแคปไซซินมีผลต่อระดับไนตริกออกไซด์ ซึ่งทำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองได้

ดังนั้นเราจึงควรหันมาลองลิ้มรสความเผ็ดของพริกป่นเพื่อสุขภาพที่ดีกันบ้าง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้ และโรคริดสีดวงทวาร ควรรับประทานพริกป่นในปริมาณน้อยๆ เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองหรืออาจทำให้อาการของโรคที่เป็นนั้นกำเริบขึ้นมาได้

เอกสารอ้างอิง

1. อโรคา108. “พริกป่นของดีคู่ครัว มีประโยชน์ต่อสุขภาพ” aroka108.com
2. TodayHealth. “ประโยชน์ของพริกป่น ที่มีมากกว่ารสชาติที่เผ็ดร้อน” todayhealth.org
3. Kapook. “ประโยชน์ของพริกป่น” kapook.com
4. MedThai. “พริก สรรพคุณและประโยชน์ของพริก 36 ข้อ” medthai.com
5. Food Network Solution. พริกป่นwww.foodnetworksolution.com

[yasr_visitor_votes size=”medium”]