ชวงเจีย(พริกหอม)

ชวงเจีย(พริกหอม)เครื่องเทศเผ็ดร้อนแบบจีนแต่อร่อยสไตล์ไทยๆ

อาหารไทยประยุกต์และอาหารจีนหลายเมนู ที่มีชวงเจีย(พริกหอม)เป็นส่วนประกอบนั้น เชื่อว่าเราน่าจะเคยได้ลิ้มรสความอร่อยกันมาแล้วโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเอ่ยถึงเนื้อตุ๋นรสเด็ด น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแซบๆ โดยเฉพาะเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นจานโปรดของใครหลายๆ คน เรียกว่าจานเดียวก็คงไม่พอกับความอร่อยเช่นนี้

ชวงเจียคืออะไรและมาจากไหม

อันที่จริงแล้วชวงเจีย(พริกหอม)ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นพริกจริงๆ เนื่องจากมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ แบบเดียวกับพริกไทย แต่ก็ไม่ใช่พริกไทยอีกด้วยเช่นกัน โดยชวงเจีย(พริกหอม)ก็คือเครื่องเทศชนิดหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งนำส่วนที่เป็นลูกมาตากแห้งแล้วจะมีเปลือกหุ้มกับเม็ดอยู่ข้างใน เมื่อนำมาเคี้ยวจะมีกลิ่นหอมๆ และรสเผ็ดซ่าคล้ายกับกานพลู อีกทั้งยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อย่างเช่น “Chinese pepper” หรือ “Szechuan pepper” นั่นก็คือพริกไทยจากมณฑลเสฉวน

สรรพคุณของชวงเจีย(พริกหอม)

นอกจากชวงเจีย(พริกหอม)จะเป็นเครื่องเทศแล้ว ยังมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรตามตำรับยาจีนอีกด้วย เพราะในชวงเจีย(พริกหอม)อุดมไปด้วยสารประกอบหลายชนิดและประเภทน้ำมันหอมระเหย เวลาที่โดนความร้อนจะให้กลิ่นหอมแรง โดยมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ลดอาการอักเสบ บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต ลดความดัน และใช้เป็นยาบำรุงร่างกายของผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่กำลังฟื้นไข้
ชวงเจีย(พริกหอม)ยังมีสรรพคุณในด้านการขับปัสสาวะและรักษาโรคกระเพาะอักเสบ บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ รวมทั้งใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ อีกทั้งยังเชื่อกันว่าเป็นเครื่องเทศที่บำรุงสมรรถภาพทางเพศดีนักแล ทำให้คุณผู้ชายรู้สึกฟิตปึ๋งปั๋งดั่งวัยหนุ่มอีกครั้ง
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดฟัน ชาวจีนจะใช้ชวงเจีย(พริกหอม)นำมาอุดฟันเช่นเดียวกับการใช้กานพลูตามตำรับยาไทย โดยนำมาบดๆ แล้วอุดเข้าไปที่บริเวณฟันผุ จะทำให้รู้สึกชาแล้วปวดฟันน้อยลง ซึ่งเป็นวิธีรักษาฟันผุแบบเฉพาะหน้า

ประโยชน์ของชวงเจีย(พริกหอม)กับอาหาร

ชวงเจียที่มีคุณภาพดีจะส่งผลให้อาหารจานนั้นมีกลิ่นหอมฟุ้งและรสชาติอร่อยมากขึ้น ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับเครื่องเทศชนิดอื่นๆ อย่างเช่น พริกไทย โป๊ยกั๊ก และกานพลู เป็นต้น สำหรับเมนูประเภทต้ม อบ หรือตุ๋น แต่ไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้รสปร่าไม่อร่อยตามที่ต้องการ
การทำอาหารเมนูพะโล้หรือขาหมูจะใช้เครื่องเทศประมาณ 5 ชนิด ได้แก่ โป๊ยกั๊ก (จันทน์แปดกลีบ) เต็งฮยง (กานพลู) วุ่ยฮึง (เมล็ดเทียนข้าวเปลือก) กุยพ้วย (อบเชย) และชวงเจียหรือพริกหอมนั่นเอง หรือนำมาปรุงเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยวแบบน้ำข้นก็จะได้รสชาติกลมกล่อมถูกปาก และยังสามารถนำมาผสมกับเครื่องเทศบางชนิดในการหมักเนื้อสัตว์เพื่อดับกลิ่นคาวได้อีกด้วย

ชวงเจียกับเครื่องปรุงรสยอดนิยม “หม่าล่า”

หม่าล่าเป็นเครื่องปรุงรสของเมืองฉงชิ่งที่เคยเป็นเมืองเอกขึ้นตรงกับมณฑลเสฉวน และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของมณฑลยูนานด้วยเช่นกัน ซึ่งนิยมใช้กับเมนูปิ้งย่างเสียบไม้ในบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ โดยมีส่วนประกอบของชวงเจีย(พริกหอม)เป็นหลัก จึงทำให้รับประทานแล้วรู้สึกเผ็ดจนปากชาลิ้นชากันเลยทีเดียว หรือจะใช้ปรุงรสแทนพริกป่นก็ได้เช่นกัน

ถึงแม้ว่าชวงเจีย(พริกหอม)จะเป็นเครื่องเทศที่มาจากประเทศจีน แต่เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปรุงอาหารที่ให้รสชาติอร่อยแปลกใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากพริกป่นแบบเดิมๆ และยังดีต่อสุขภาพของทุกคนอีกด้วย

เอกสารอ้างอิง
1. เอี๊ยะแซ. “พริกหอม (ชวงเจีย)” www.earsaireasy.com
2. FASCINO The Healthcare Destination. “สมุนไพรจีนและอาหารจีนเพื่อสุขภาพ” http://www.profascino.co.th
3. The MOMENTUM. “หม่าล่า เผ็ดชาสไตล์จีนบนมื้ออาหารคนไทย” www.themomentum.co
4. ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นสามเกลอ. 22 ตุลาคม 2014. www.facebook.com/3kloe